วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
บันทึกอนุทิน
ครั้งที่ 5
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วัน/เดือน/ปี 11 กุมภาพันธ์ 2558
เวลาเรียน 08.30-12.20 น.
วันนี้เรียนเรื่อง การสอนเด็กพิเศษและเด็กปกติ
ดังนี้
การฝึกเพิ่มเติม
- อบรมระยะสั้น , สัมมนา
-สื่อต่างๆ
-เด็กมักคล้ายคลึงกันมากกว่าแตกต่าง
-ครูต้องเรียนรู้ , มีปฎิสัมพันธ์กับเด็กปกติและเด็กพิเศษ
-รู้จักเด็กแต่ละคน
-มองเด็กให้เป็น “เด็ก”
• การเข้าใจพัฒนาการของเด็ก
จะช่วยให้ครูสามารถมองเห็นความแตกต่างของเด็กแต่ละคนได้ง่าย
•วุฒิภาวะ
•แรงจูงใจ
•โอกาส
•ให้เด็กเป็นฝ่ายเริ่ม
•เด็กเข้าหาครูมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสในการสอนมากขึ้นเท่านั้น
• ครูต้องพร้อมที่จะพบเด็ก
• ครูต้องมีความสนใจเด็ก
• ครูต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อเด็ก
• ครูต้องมีอุปกรณ์และกิจกรรมล่อใจเด็ก
• ครูต้องมีความตั้งใจจริงในการช่วยให้เด็กแต่ละคนได้เรียนรู้
• ครูต้องใช้เวลาในการติดต่อไม่นาน
• ครูต้องทำให้เป็นเรื่องสนุกสนาน
• มีลักษณะง่ายๆ
• ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
• เด็กพิเศษได้เรียนรู้จากการสังเกตและเลียนแบบเด็กปกติ
• เด็กปกติเรียนรู้ที่จะให้ความช่วยเหลือเด็กพิเศษ
• เด็กพิเศษไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำอยู่เป็นประจำ
• กิจกรรมต้องเรียงลำดับเป็นขั้นตอนและทำนายได้
• เด็กจะรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ
• การสลับกิจกรรมที่อยู่เงียบๆกับกิจกรรมที่เคลื่อนไหวมากๆ
• คำนึงถึงความพอเหมาะของเวลา
• ความยืดหยุ่น
• การแก้แผนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์
• ยอมรับขอบเขตความสามารถของเด็ก
• ครูต้องตอบสนองต่อเป้าหมายที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กแต่ละคน
• ใจกว้างต่อคำแนะนำของบุคคลในอาชีพอื่นๆ
• สร้างความสัมพันธ์ระหว่างการบำบัดกับกิจกรรมในห้องเรียน
• เด็กทุกคนสอนได้
• เด็กเรียนไม่ได้เพราะไร้ความสามารถ
• เด็กเรียนไม่ได้เพราะขาดโอกาส
• ความสนใจของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กนั้นสำคัญมาก
• มีแนวโน้มจะเพิ่มพฤติกรรมที่ดีของเด็ก และมักเป็นผลในทันที
• หากผู้ใหญ่ไม่สนใจพฤติกรรมที่ดีนั้นๆก็จะลดลงและหายไป
• ตอบสนองด้วยวาจา
• การยืนหรือนั่งใกล้เด็ก
• พยักหน้ารับ ยิ้ม ฟัง
• สัมผัสทางกาย เช่น การกอด
• ให้ความช่วยเหลือ , ร่วมกิจกรรมกับเด็ก
• ครูต้องให้แรงเสริมทันทีที่เด็กมีพฤติกรรมอันพึงประสงค์
• ครูต้องละเว้นความสนใจทันทีและทุกครั้งที่เด็กแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึ่งประสงค์
• ครูควรให้ความสนใจเด็กนานเท่าที่เด็กมีพฤติกรรมที่พึ่งประสงค์
การแนะนำหรือบอกบท (prompting)
• ย่อยงาน
• ลำดับความยากง่ายของงาน
• การลำดับงานเป็นการเสริมแรงเพื่อให้เด็กค่อยๆก้าวไปสู่ความสำเร็จ
• การบอกบทจะค่อยๆน้อยลงตามลำดับ
• สังเกตและกำหนดจุดมุ่งหมาย
• วิเคราะห์งาน กำหนดจุดประสงค์ย่อยๆในงานแต่ละขั้น
• สอนจากง่ายไปยาก
• ให้แรงเสริมทันทีเมื่อเด็กทำได้ หรือเมื่อเด็กพยายามอย่างเหมาะสม
• ลดการบอกบท เมื่อเด็กเรียนรู้ที่จะก้าวไปขั้นต่อไป
• ให้แรงเสริมเฉพาะพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่สุด
• ทีละขั้น ไม่เร่งรัด “ยิ่งขั้นเล็กเท่าไหร่
ยิ่งดีเท่านั้น”
• ไม่ดุหรือตี
• พฤติกรรมทุกๆอย่างในชีวิตประจำวันต่อเนื่องกันระหว่างพฤติกรรมย่อยๆ
หลายๆอย่างรวมกัน
• เช่น การเข้าห้องน้ำ การนอนพักผ่อน การหยิบและเก็บของ การกลับบ้าน
• สอนแบบก้าวไปข้างหน้า หรือย้อนมาจากข้างหลังเด็กตักซุป
• การจับช้อน
• การตัก
• การระวังไม่ให้น้ำในช้อนหกก่อนจะเข้าปาก
• การเอาช้อนและซุปเข้าปากแทนที่จะทำให้หกรดคาง
• การเอาซุปออกจากช้อนเข้าสู้ปาก
-ครูจะงดแรงเสริมกับเด็กที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
-ทำอย่างอื่นและไม่สนใจเด็ก
- เอาอุปกรณ์หรือขอเล่นออกไปจากเด็ก
-เอาเด็กออกจากการเล่น
วันนี้อาจารย์ให้วาดภาพมือที่ใส่ถุงมือ
ดังนี้
ประเมินตนเอง : วันนี้แต่งกกายเรียบร้อย และตั้งใจเรียน เข้าเรียนก่อนเวลา ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนและตั้งใจทำกิจกรรมที่อาจารย์สั่ง ให้ความร่วมมือทุกครั้งในการตอบคำถามของอาจารย์
0 Comments:
Subscribe to:
ส่งความคิดเห็น (Atom)